
พฤหัส, 2 มีนาคม 2566
สภาพอากาศวันนี้
LINE : @THAIPOST
เปลว สีเงิน
ยังไม่ตายก็อยู่กันไป
ผักกาดหอม
กาแฟดำ
พฤหัส, 2 มีนาคม 2566
อ่านบางตอนใน “สามก๊ก” แล้วขำ
หลัง “ศึกผาแดง” ที่โจโฉถูก “เล่าปี่-ซุนกวน” ผนึกกำลังอัดซะน่วม จนหนีหัวซุก-หัวซุน
เล่าปี่หลอกให้ซุนกวนไล่ล่าตีเอาบ้านเล็ก-เมืองน้อยของโจโฉ
ขณะเดียวกัน เล่าปี่ตลบหลังเข้ายึด “เกงจิ๋ว” เมืองใหญ่อันเป็นจุดยุทธศาสตร์ในภูมิภาค ที่ “ซุนกวน-โจโฉ” ต่างคน-ต่างทึ้งกันมายาวนานไปกินหน้าตาเฉย
“เล่าปี่” จากที่เป็น “เจ้าไม่มีศาล”
ก็กลายเป็น “เจ้ามีศาล” โดยมี “เกงจิ๋ว” เป็นอาณาจักรให้ครองนับแต่นั้น!
เหตุการณ์ตรงนี้ เข้าตำรา “ตาอิน-ตานา” ถูก “ตาอยู่” เสี้ยมให้ตีกันเปี๊ยบ
ลงท้าย “ตาอยู่” ฉกเอาเมืองที่ต่างฝ่าย-ต่างจ้องตาเป็นมันเอาไปกินเฉย ต่อหน้า-ต่อตา!
ที่ยกมาเล่า ก็ไม่มีนัยอะไร เพียงเห็นระหว่าง “ภูมิใจไทย” กับ “รวมไทยสร้างชาติ” ช่วงนี้
จะเกิดเหตุการณ์คล้ายๆ ถูก “ความหวังดีแต่ประสงค์ร้าย” จากใครบางคนที่เป็น “บุคคลไม่ทราบฝ่าย” ถวายให้
หวังให้ “กินใจ” จน “แตกคอ-แตกขั้ว” กัน ว่าด้วยกลเกมยุทธศาสตร์การเมืองเรื่องตั้งรัฐบาลในอนาคต
“ใช่-ไม่ใช่” ผมไม่รู้นะ
เพียงเป็น “คนนอก” ตามดู เห็น..นึกถึง “สามก๊ก” ตอนนั้น ก็อดยกมาเปรียบเทียบสนุกๆ ไปตามประสาคน “อยู่ไม่สุข” ไม่ได้
แต่ผมเชื่อ คนอย่าง “พลเอกประยุทธ์” และ “คุณอนุทิน”
ประสบการณ์ผจญศึกในสถานการณ์วิกฤตร่วมกันตลอด ๔ ปี จะตกอยู่ใต้กลเกมตื้นๆ แค่นี้ละก็
นั่น…ไม่ใช่ “ประยุทธ์-อนุทิน” ที่อยู่ “อย่างใหญ่ๆ” ด้วยกันมาจนถึงวันนี้แน่
ก็ตอนวิกฤตปัญหาโควิดที่ต้องควานจักรวาลหาวัคซีน ไม่ถูกปั่น-ถูกเสี้ยมให้แหกอกกันยิ่งกว่านี้หรือ?
แต่นายกฯ ประยุทธ์และรองนายกฯ อนุทิน ก็เป็นดั่ง “ขุนเขา” ร้อยมรสุม ก็มิอาจเขย่า ให้เขยื้อนได้
หรืออย่างเรื่องรถไฟฟ้า……
ถ้านายกฯ คิดจะใช้อำนาจ “หักเอา” ไม่เคารพในเหตุผลและกรอบอำนาจของกันและกันตามมอบหมาย
ก็หักซะตั้งแต่ตอนนั้นไม่ดีกว่าหรือ….
จะต้องมารอให้โง่ตอน “ภาพยนตร์อวสาน” เพื่ออะไร?
ฉะนั้น เกมนี้ ก็แค่โจทย์ “เลขคณิตคิดในใจ” เด็กประถม ๒
“กอดอก” ตามครูสั่ง แค่กระดิกนิ้วนับเอา ก็ตอบได้แล้ว!
เลือกตั้ง ปี ๖๒…….
มีการ “แตกพรรค” ด้วยกลเกม “แตกแบงก์พัน” หวัง ๑๐ คอก เป็น ๑ ฝูง “ตั้งรัฐบาล”
แต่เพราะ “เหิมเกริม-เหิมบังอาจ” จนพลาดพลั้งนั้น จึงทำให้ภินท์พัง-ผิดแผนไปทั้งหมด
คราวนี้อีกเหมือนกัน เลือกตั้งปี ๖๖
ไม่แตกแบงก์พัน แต่ใช้แผน “วัสสการพราหมณ์”!
“พระเจ้าอชาตศัตรู” ส่งวัสสการพราหมณ์สอดแทรกเข้าไปเป็นบ่างช่างยุในแคว้นลิจฉวี ที่แข็งแกร่ง อยู่กันด้วยสามัคคีมาช้านาน จนเกิดระแวงกินใจกัน
จากนั้น “พระเจ้าอชาตศัตรู” ก็ยกทัพเข้าตี ยึดเมืองลิจฉวีได้ ง่ายดาย ปานล้วงมะนาวในไหพลูยาย!
ก็คุยเล่นๆ เรื่อง “เด็กเล่น” ขายข้าว-ขายแกงอย่างนี้ ไม่ต้องไปพูดถึงว่า นายกฯ รู้มั้ย คุณอนุทินรู้มั้ย
“หม่ำ จ๊กมก” เขายังรู้เลย!
คุยเรื่องที่ “ดีต่อใจ” ดีกว่า ผมบอกแล้ว ตั้งแต่ ๑ มีนา.บ้านเมืองไทย จะมีอะไรดีๆ ที่เข้ารูป-เข้ารอย
เมื่อวาน ท่านอัยการสูงสุด ซึ่งเป็นสุภาพสตรีที่คู่ควรแก่การเชื่อถือ-ยกย่องในความเป็น “ข้าราชการ” เพื่อ “แผ่นดินเป็นธรรม” นามว่า
“นางสาวนารี ตัณฑเสถียร”
ท่านลงนามแต่งตั้งคณะทำงาน “ตรวจสอบข้อเท็จจริง” กรณีข่าวสารและเรื่องร้องเรียน
เกี่ยวกับการ “สั่งไม่ฟ้องคดีอาญา” ที่อาจมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ “สำนักงานอัยการสูงสุด” จำนวน ๕ คดี
มีคดีอะไรบ้าง รีบดูกันเลย…
-คดี “เผาสวนงู” ที่ภูเก็ต ซึ่งเกี่ยวพันถึงนายตู้ห่าว
-คดี ซี.พี.เค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กับพวก (บริษัทเครือเปรมชัยถูกกล่าวหารุกป่า)
-คดี “นายแทนไท ณรงค์กูล” กับพวก เป็นข่าวฉาวอยู่ขณะนี้
-คดี “มาวินเบต ดอทคอม” กลุ่มเครือข่าย “บ่อนพนันออนไลน์” นำเงินที่ได้ไปฟอกด้วยการลงทุนในธุรกิจต่างๆ
-คดียาเสพติด “เมทแอมเฟตามีน” ๔ แสนเม็ด ที่จังหวัดนนทบุรี
-คดี “นายกำพล วิระเทพสุภรณ์” กับพวก
คดีนี้ เป็นคดีค้ามนุษย์ “วิคตอเรียซีเครท” เห็นกันตำตา และเชื่อว่า มีเจ้าหน้าที่ ปปง.รู้เห็น
หลุดรอดการถูกฟ้องนำไปสู่การจะเปิดกิจการใหม่ ทั้ง เดอะ ลอร์ดและโคปาคาบาน่า โดยกลุ่มทุนพนันออนไลน์ กลุ่มทุนจีน และกลุ่มนอมินีนายกำพล
นอกจากนี้ มีร่องรอยทำให้สงสัยว่า นายกำพลให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐด้วยหรือไม่
จน “นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ทำหนังสือร้องเรียนถึงประธาน ก.อ.เมื่อกลางเดือนกุมภา.ที่ผ่านมา
และคดีนี้ ก็เป็น ๑ ใน ๕ คดี ที่ อสส.สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย
แต่ละคดี ใครบ้างได้รับมอบหมายให้เป็นคณะตรวจสอบ ก็ดูกันนะครับ และจำไว้
-คณะที่ ๑. คดีนายกำพล กับพวก และคดีเผาสวนงูภูเก็ต คณะตรวจสอบประกอบด้วย
๑.นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ หัวหน้าคณะทำงาน
๒.นายอิทธิพร แก้วทิพย์ คณะทำงาน
๓.นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ คณะทำงาน
-คณะที่ ๒. คดี ซี.พี.เค อินเตอร์เนชั่นแนล กับพวก
๑.นายศักดา ช่วงรังษี หัวหน้าคณะทำงาน
๒.นายโชคชัย ทิฐิกัจจธรรม คณะทำงาน
๓.นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง คณะทำงาน
-คณะที่ ๓. คดีนายแทนไท ณรงค์กูล กับพวก
๑.นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ หัวหน้าคณะทำงาน
๒.นายโกวิท ศรีไพโรจน์ คณะทำงาน
๓.นายคถา สถลสุต คณะทำงาน
-คณะที่ ๔. คดีมาวินเบต ดอทคอม ประกอบด้วย
๑.นายสมเกียรติ คุววัฒนานนท์ หัวหน้าคณะทำงาน
๒.นายชาติ ชัยเดชสุริยะ คณะทำงาน
๓.นายทรงพล สุวรรณพงศ์ คณะทำงาน
-คณะที่ ๕. คดียาเสพติดเมทแอมเฟตามีน 400,000 เม็ด
๑.นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ หัวหน้าคณะทำงาน
๒.นายนิติ สุขเจริญ คณะทำงาน
๓.นายจิตภัทร พุ่มหิรัญ คณะทำงาน
ครับ….
ใครจะไปคิด-ไปฝัน ว่ายุคนี้ คดีอันเป็นที่สุดในชั้นคำสั่งอัยการแล้ว จะได้รับการทบทวนเมื่อ “คำสั่งไม่ฟ้อง” นั้น ขัดสายตาประชาชน จนเป็นข้อครหา
ก็มียุค อสส.ชื่อ “นางสาวนารี” ท่านนี้แหละ
ที่ต้องบันทึกไว้ในบรรทัดสรรเสริญ “พนักงานในกระบวนการยุติธรรมตำแหน่ง อสส.ที่พร้อมทั้งนิติธรรมและเที่ยงธรรม”
เสียดาย ท่านจะอยู่ในตำแหน่ง อสส.ถึงเดือนกันยา.๖๖ นี้ ก็ได้แต่ภาวนาว่า ทั้ง ๕ คดีที่ตรวจสอบ ขอให้เสร็จทันก่อนท่านเกษียณเถิด
เอ้า..ทั้ง ๕ คณะทำงาน มีอำนาจและหน้าที่อย่างใดบ้าง ก็ดูกัน
-ตรวจสอบข้อเท็จจริงและการสั่งคดีของพนักงานอัยการที่เกี่ยวข้องกับคดี กรณี “คำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญา” ที่อยู่ในความสนใจประชาชน อาจมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์สำนักงาน อัยการสูงสุด
-จัดทำ Timeline ในการดำเนินคดี ตั้งแต่รับสำนวนและการสั่งคดีของพนักงานอัยการที่เกี่ยวข้อง เพื่อชี้แจงต่อที่ประชุม ก.อ.และสาธารณชน
-เรียกสำนวนคดีที่เกี่ยวข้องมาพิจารณา
-เชิญพนักงานอัยการ เจ้าหน้าที่และบุคลากรที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ข้อเท็จจริง ข้อมูล หรือความเห็นประกอบการตรวจสอบ
-เรียกเอกสารจากหน่วยงานภายในสำนักงานอัยการสูงสุดที่เก็บรักษาเอกสารเพื่อประกอบการพิจารณาและให้หน่วยงานดังกล่าวให้ความร่วมมือจัดส่งเอกสารโดยพลัน
-เชิญบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ข้อเท็จจริง ข้อมูลหรือความเห็นประกอบการตรวจสอบ และขอเอกสารหลักฐานจากบุคคลและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณา
ทั้งนี้ ให้หัวหน้าคณะทํางานฯ แต่ละคณะมีอำนาจลงนามในหนังสือออก
-ให้หัวหน้าคณะทํางานแต่ละคณะมีอำนาจแต่งตั้งคณะทำงานเพิ่มเติมได้ตามความจําเป็นและเหมาะสม
-ให้หัวหน้าคณะทำงานแต่ละคณะมอบหมายให้บุคคลหรือคณะบุคคลดำเนินการอื่นใด เพื่อให้ความช่วยเหลือสนับสนุน
หรืออำนวยความสะดวกในการดำเนินการตรวจสอบของคณะทำงานให้สำเร็จ ลุล่วง
รวมถึงการให้ข้อมูลข่าวสารหรือประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการดำเนินการตรวจสอบของคณะทำงานได้ตามที่เห็นสมควรและจำเป็น
-รายงานผลการตรวจสอบพร้อมความเห็นและข้อเสนอแนะในประเด็นเกี่ยวกับการสั่งคดีและข้อเสนอแนะอื่น ๆ ตามที่เห็นสมควรต่ออัยการสูงสุดเพื่อประกอบการพิจารณาสั่งการในโอกาสแรก
ใจความหลักๆ ก็ประมาณนี้ ไม่สนุก แต่ควรรู้ไว้ ว่าเหตุนำสู่การตั้งคณะสอบสวนทวนทบคดีที่ “สั่งไม่ฟ้อง” ไปแล้วเหล่านี้ ตามที่ อสส.ระบุ
ก็มาจาก “สำนักข่าวอิศรา” และตามหนังสือร้องเรียนคุณชูวิทย์ ก็ต้องบันทึกไว้เป็นเกียรติด้วย
เอาละ…ยิ่งยาว ท่านยิ่งหาว
ฉะนั้น “จบแล้ว” ไปนอนเถอะ ผมก็จะไปด้วยเหมือนกัน!
คนปลายซอย
เข้าสู่เดือนมีนาคม การนับถอยหลังเพื่อนำไปสู่การยุบสภาฯ ก็เริ่มงวดเข้ามามากขึ้น หลังสภาผู้แทนราษฎร ปิดสมัยประชุมไปแล้วเมื่อ
วันนี้ ๑ มีนา.๖๖ ฤกษ์ดี ถือโอกาส “แจกการ์ดเชิญ” ล่วงหน้าซะเลย! เดือนหน้า “๑๐ เมษายน” ผมจะ “ฉลองสำนักงานใหม่” ไทยโพสต์ ที่ถนนประชาชื่น ซอย ๔๖ จึงขอบอกกล่าว
ชาวบ้านในชนบททางภาคตะวันออกของกัมพูชาวิ่งกรูลงไปในทะเลสาบโคลนที่มีความลึกถึงต้นขา ใช้สุ่มดักปลาและแหในการจับปลาด้วยใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้ม และโห่ร้องยินดีทุกครั้งที่จับปลาได้แต่ละตัว
วันนี้ (๒๘ ก.พ.๖๖) วันสุดท้ายการประชุม “สมัยสามัญ” ของสภา แต่ปิดสมัยประชุมยังไม่ลง ต้องขยันกันจนหยดสุดท้ายด้วยวาระพิเศษ ว่าด้วยการพิจารณา “พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย” ที่ ครม.เสนอ
หลังจากแต่ละพรรค “โชว์ตัว” ว่าที่นายกฯ ” นอกรอบ” ก่อนถึงวันเข้าจุดสตาร์ทในเดือนหน้า
ยังไม่สร่างเมากระมัง…พวก “เด็กสร้างบ้าน” นั่นน่ะ!? วันก่อนเล่นขี้ วันนี้เล่นบทพระเอกลิเก กลัวโลกไม่จำ ว่ากู…พวกบ้าห้าร้อยจำพวก ก็ไปยืนร้องรำอยู่กลางน้ำโน่น
Copyright© thaipost.net, All rights reserved., ออกแบบเว็บ จัดทำเว็บไซต์โดย iDesign